ร้าน Kabocha เป็นอีกร้านที่อยากแนะนำ'สำหรับคนชอบลองของใหม่ๆ' อยู่ปากซอยลาดพร้าว 19 ตอนแรกที่มาทานร้านนี้เพราะเห็นรูปใน instagram ของ starvingtime ที่ฟอโล่อยู่ เราเป็นคนชอบลองอยู่แล้ว อีกอย่างก็ไม่ไกลจากบ้านมากด้วยก็เลยไปลองดูค่ะ

ตอนถึงร้านตกใจเล็กน้อย เพราะว่าร้านเป็น2ชั้นต้องเดินขึ้นบันไดไป (ข้างล่างเป็นที่จอดรถ) พอขึ้นไปถึงก็มีพนักงานมาบริการ เรามาคนเดียวเขาเลยให้ไปนั่งหน้าบาร์ค่ะ เอาเมนูมาให้พร้อมกับแนะนำอาหารอย่างดีมากๆ

ราคาของอาหารถือว่าสูงอยู่เหมือนกัน ถ้าจะให้เทียบกับร้านที่คุ้นเคยกันก็น่าจะประมาณ Sushi Masa แต่ก็ยังถูกกว่าบ้าง เพราะตอนนั้นที่เราไป มันลด 25% ถ้าจ่ายเงินสด กับ 20% บัตรเครดิต ไปคนเดียวแต่ก็จัดเต็มค่ะ เมนูที่สั่งมี.... Salom foie gras, Mentaiko sushi, foie gras sushi, matsuzaka roll, ยำปลาหมึก, ตบท้ายด้วย caramel custard ค่ะ (รสชาติอาหาร เดี๋ยวเราจะไปพิมพ์ไว้ในคอมเม้นใต้รูปอาหารนะค้ะ) ราคาอาหาร+ลดแล้วอยู่ที่ 1,200 ถือว่าถูกและคุ้มมากค่ะ อาหารสดสุดๆ รสชาติก็อร่อยระดับนึงเลยค่ะเทียบกับ Masa ก็สูสีกันเลยทีเดียว

ส่วนบรรยากาศร้านก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ น่ารักดี โทนร้านออกสีเหลืองส้ม เราว่าน่าจะจัดร้านให้ดูหรูหรามากกว่านี้ถึงจะดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นนะ แล้วก็น่าใจใช้ไฟให้ออก สลั่วๆมากกว่านี้นิดนึง ทำให้บรรยากาศเหมือนร้านราเม็นแทนเลยง่ะ แหะๆ (คหสต นะค้ะ) 

Honmono เรียกว่าเป็นอีกร้านโปรดเลยก็ได้ พอนึกอยากจะกินอาหารญี่ปุ่นก็นึกถึง honmono ก่อนเลยเพราะติดใจในเรื่องของ วัตถุดิบและรสชาติที่ทำออกมาได้ถูกปากคนไทยหลายๆคนเลย

รสชาติ: วัตถุดิบที่นำมาใช้สดสะอาดมาก ปกติเราเป็นคนไม่ชอบทาน foie gras เพราะเคยไปทานมาที่ร้าน wine i love you แล้วไม่ถูกใจเลยไม่เคยคิดที่จะทานอีกเลย แต่พอไป honmonoกับเพื่อน ก็มีเพื่อนคะยั้นคะยอให้ลองทานดู ไอเราก็เข็ดกลัวมันจะเลี่ยนคาวเหมือนที่เคยๆทาน แต่ก็ในเมื่อเพื้อนคะยั้นคะยอ การันตีว่าเด็ดชัวร์ เราก็ลองดู พอทานไปคำแรกเท่านั้นแหละ เบิ้ลอีก 3 คำเลยค่ะ 55555 ฟัวกราส์เค้าสดมากน้ำซอสก็อร่อยหวานๆตัดด้วยเค็มเล็กน้อย กลิ่นฟัวกราส์ที่โดนเบิร์นอย่างพอดิบพอดีบวกกับน้ำซอสข้าวคำน้อยๆและน้ำซอสหอมหวานตัดเค็มเล็กน้อยทำให้ ซูชิคำนี้ฟินที่สุดไปเลยค่ะ สำหรับคนที่ไม่เคยทานหรืออยากลองทานฟัวกราส์ แนะนำให้ลองจากร้านนี้ก่อนค่ะ

ส่วนเมนูที่2ที่อยากแนะนำคือเนื้อมัสสึซากะโรลค่ะ เนื้อชั้นเยี่ยมที่ใครๆก็ต้องลองทาน ทางร้าจะเบิร์นเนื้ออย่าง meduim rare วางบนข้าวซูชิ และตกแต่งด้วยต้นหอมซอยบางๆเพื่อตัดกลิ่นคาวที่แทบจะไ่ม่มีของเนื้อ พอทานเข้าไปแล้วเนื้อนุ่มละลายในปากเลยค่ะ ได้รสชาติของเนื้อเต็มๆ ไม่มีข้าวหรือต้นหอมมาแย่งซีนเลยค่ะ เนื้อมัสสึซากะจะหอมหวานกลมกล่อมนุ่นละลายไม่เหนียวแม้แต่นิดเเียวเลย ถือเป็นอีกเมนูที่ลองแล้วจะไม่ผิดหวังแน่ๆเลยค่ะ

การบริการ: การบริการของร้านต้องขึ้นอยู่ที่ว่าช่วงที่เราไปคนน้อยหรือคนมากค่ะ ส่วนใหญ่เวลาเดินเข้าไปคนเดียวก็จะเก้อๆหน่อย 5555 รอหน้าเค้าท์เตอร์สักพักก็จะมีพนักงานมาให้บริการพาไปที่โต๊ะหรือหน้าบาร์ค่ะ พนักงานมีความสุภาพนอบน้อมสูง แต่บางทีก็บริการไม่ทั่วถึงค่ะ ท่ีที่เราไปทานคือที่ ทองหล่อ23 กับ seen space 2ที่เลยค่ะ บริการพอๆกันแต่ที่ seen space แย่กว่า ตอนนี้ร้านที่ seen space ปิดไปแล้วค่ะ เหลือแต่สาขาอื่นแล้ว

บรรยากาศ: บรรยากาศที่ ทองหล่อ23 ดีค่ะร้านสไตล์ญี่ปุ่น จากปากซอยเข้ามา 100เมตรได้ ร้านอยู่ฝั่งซ้ายที่จอดรถฝั่งขวา แสงไฟสีส้ม การจัดร้านไม่ได้หรูหรามากถ้าเทียบกับร้านอื่นที่มีราคาอาหารเท่าๆกัน มีโต๊ะจัดไว้เป็นโซนๆ แล้วก็บาร์ แล้วแต่จำนวนคนที่ไปค่ะ

แนะนำให้จองล่วงหน้าก่อนไปก็ดีค่ะเผื่อที่เต็มแต่ถ้าอยากไปติสๆชิวๆสบายๆคนเดียวก็ วอคอินเลยค่ะ ^ ^

ไปเดินเดอะมอลล์ทีก็ผ่าน krispy kreme ที
แวะซื้อชิมชิ้นสองชิ้นที
เรียกว่าชิมเกือบหมดทุกหน้าแล้วก็ยังไม่เจออันไหนถูกใจเท่า original glaze มันเป็นรส signature ของร้านอยู่แล้วกินแล้วอยากกินอีก 

ส่วนหน้าอื่นเราว่ารสชาติมันแปลกๆ คือไม่ใช่ไม่อร่อยแต่กินแล้วไม่อยากกินอีก มันแบบไม่ฟินเท่า original บางหน้ามีออกรสเปรี้ยวครีมชีสด้วยมันไม่ค่อยเข้ากันเลย

ถ้าใครแวะไปเราเชียร์ให้ทาน original นะคุ้มค่าฝุดๆ แป้งนุ่มละลายในปากเกร็ดน้ำตาลก็หวานกลมกล่อม กลิ่นหอมละมุน ทานแล้วก็อยากทานอีก ไม่กลัวอ้วนเลย

บรรยากาศร้านที่ เดอะมอลล์บางกะปิ ดีค่ะร้านอยู่โซนริมหน้าต่างทางเชื่อมไปห้างน้อมจิตร มองออกไปชิวๆดูคนเดินเข้าห้าง นั่งทำรายงาน อ่านหนังสือ จิบเครื่องดื่มร้อนๆแทน starbucks ก็ได้ค่ะ คนไม่เจ๊าะแจ๊ะเสียงดังค่ะ